การทำงานที่บ้านหรือที่เรียกว่า Work From Home เป็นเทรนการทำงานที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีผลดีต่อองค์กรในหลายๆ ด้านอย่างคาดไม่ถึง ดังต่อไปนี้
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
การทำงานจากที่บ้านทำให้พนักงานมีสมาธิ ไม่มีสิ่งอื่นมารบกวนมากเท่ากับการเข้าออฟฟิศ
จากงานศึกษาของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดที่ตีพิมพ์ใน Harvard Business Review พบว่า พนักงานที่ทำงานจากที่บ้านทำงานได้สำเร็จมากกว่ากลุ่มที่ถูกบังคับใช้เข้าออฟฟิศ โดยสำรวจจากกลุ่มพนักงาน Call Center ในบริษัท Ctrip เว็บไซต์สายท่องเที่ยวของจีน โดยได้แยกพนักงานออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ทำงานที่บ้าน และกลุ่มที่ทำงานในออฟฟิศ พบว่า พนักงานที่ทำงานที่บ้านทำงานได้สำเร็จมากกว่าอีกกลุ่มถึง 13.5%
นอกจากนั้น งานศึกษาของ Gallup ก็พบว่า พนักงานที่ทำงานจากที่บ้าน 3-4 วันต่อสัปดาห์ รู้สึกมีส่วนร่วมกับงานที่ทำถึง 33% สูงกว่าพนักงานที่ต้องเข้าออฟฟิศรู้สึกมีส่วนร่วมกับงานเพียง 15% เท่านั้น
พนักงานมีความสุขมากขึ้น
การทำงานที่บ้านทำให้พนักงานสามารถจัดการเวลาของตัวเองได้ดีกว่า ว่าเวลาไหนที่จะทำงาน เวลาไหนที่จะพักคลายเครียด อีกทั้งยังทำให้พนักงานจัดการอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากการทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
มีงานศึกษาจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ พบว่า การทำงานจากที่บ้านทำให้พนักงานมีความสุขมากขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของบริษัท
ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายกับการซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติม และลดการเสื่อมของอุปกรณ์ในออฟฟิศ หรือค่าไฟที่ต้องจ่ายในทุกเดือน เพราะถ้าพนักงานทำงานที่บ้าน พวกเขาก็จะซื้อของเหล่านั้นด้วยเงินของเขาเอง ทำให้ต้นทุนของบริษัทลดลงไปอีก
ลดความเครียด และเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน
หากพนักงานทำงานที่บ้าน จะทำให้พนักงานสามารถผ่อนคลายจากงานตรงหน้าด้วยการทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ที่ไม่ได้อยู่แต่หน้าจอคอม เช่นการเดินออกไปสูดอากาศที่หน้าระเบียง การหันไปพูดคุยกับคนในครอบครัว เป็นต้น และการที่ไม่จำกัดอยู่แต่ในห้องออฟฟิศ ทำให้พนักงานมีไอเดียการทำงานมากขึ้นจากการอยู่ในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย หรือการเข้าโซเชียลมีเดีย เป็นต้น
พนักงานจะลาป่วยน้อยลง
หากพนักงานทำงานจากที่บ้านได้ จะลดความเครียดไปได้สูงมาก โดยเฉพาะความเครียดจากการเดินทาง หรือหากพนักงานเกิดป่วยขึ้นมาจริงๆ ก็สามารถทำงานจากที่บ้านได้ ไม่ต้องไปออฟฟิศเพื่อเพิ่มความเสี่ยงในการกระจายเชื้อโรคให้กับเพื่อนร่วมงานในบริษัท
ผลวิจัยจากสำนักวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า การทำงานจากที่บ้านช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้จริง เพราะระดับมลพิษจากการเดินทางไปทำงานทุกวันที่พนักงานได้รับ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยตรง
สร้างการรักองค์กรมากยิ่งขึ้น
หากบริษัทใดที่ให้พนักงาน Work From Home ในช่วงวิกฤตโควิด 19 นี้ พนักงานจะรู้สึกว่าบริษัทของพวกเขานั้นเห็นความสำคัญในสุขภาพ และความปลอดภัยของพวกเขา ทำให้รู้สึกขอบคุณ และรู้สึกดีกับองค์กรมากยิ่งขึ้น และเมื่อเขารู้สึกดีกับองค์กรแล้วนั้น ส่งผลให้มีความตั้งใจในการทำงานให้กับองค์กรมากขึ้นอีกด้วย
ลดอัตราการลาออกของพนักงาน
จากการศึกษาบริษัท Ctrip ยังพบว่า การทำงานจากที่บ้านทำให้พนักงานมีความพึงพอใจในงานที่ทำสูงมาก ยิ่งกว่านั้นทำให้อัตราการลาออกจากที่ทำงานลดลงถึงครึ่งหนึ่ง ทางบริษัทเองก็จะแบกรับปัญหาการจ้างพนักงานใหม่ลดลง
หากบริษัทใดที่ต้องการ Work From Home อย่าลืมโปรแกรมดีๆ ที่ตอบโจทย์การทำงานที่บ้านอย่าง TSplus ด้วยนะคะ เป็นระบบ Remote Desktop ที่จะทำให้การ Work From Home เป็นเรื่องง่าย เพราะ
- ไม่มีแอปพลิเคชันทำงานในคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ก็ไม่มีปัญหา เพราะเรารีโมทแอปพลิเคชัน และโฟลเดอร์งานของออฟฟิศ เพียงแค่ล็อกอินจากเว็บบราวเซอร์ ก็เหมือนใช้งานคอมที่ออฟฟิศแล้ว
- หมดปัญหาเรืองไม่มี PC ทำงานที่บ้าน เพราะสามารถทำงานผ่านมือถือ android iOS และแท็บเล็ตได้ แค่มีบราวเซอร์ที่รองรับ HTML5
- สามารถปริ้นท์งานจากที่ใดก็ได้
- กำหนดเวลาเข้าใช้ระบบได้
- กำหนดแอปพลิเคชัน และโฟลเดอร์ที่ให้ใช้สำหรับแต่ละคนได้
- ประหยัดกว่า Citrix Virtual App and Desktop และ VMware Horizon View กว่า 80%
หากสนใจโปรแกรม Remote Desktop จาก TSplus สามารถติดต่อได้ที่ 02 126 7852 หรือ Line id : @kachen19 ค่ะ